ช้างเร่ร่อน รีเทิร์น!!

 

    เมื่อประมาณ 1-2 ปีที่แล้ว ทางผู้ว่าราชการ กทม. ได้ทุ่มงบประมาณ ถึง 12 ล้านบาท เพื่อส่งช้างที่มาเดินเร่ร่อนให้เป็นเครื่องมือหากินของเหล่าควาญช้างทั้งหลาย จำนวน 100 เชือก กลับภูมิลำเนา โดยจะสนับสนุนเงินเดือนให้กับควาญช้างเป็นเงิน 8,000 บาทต่อเดือน และสนับสนุนค่าเลี้ยงดูช้างเป็นเงิน 10,000 บาทต่อเชือกเป็นประจำทุกเดือน 

 

     แต่ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี้ เราจะเห็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทย กลับมาเดินเร่ร่อน ขายกล้วย ขายอ้อยกันอีกแล้ว ทั้งนี้ ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องการควบคุมการนำช้างมาหารายได้ในเขตกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2553 ได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาแล้วเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2553 และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2553 ที่ผ่านมา ซึ่งกำหนดให้ผู้เป็นเจ้าของช้าง อันหมายถึงผู้ครอบครองหรือผู้ควบคุมดูแลช้างที่นำช้างเข้ามาเร่ร่อนเพื่อหา รายได้ในพื้นที่กรุงเทพฯ จะได้รับโทษสูงสุดคือต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือแม้แต่หากผู้ใดให้ใช้สถานที่ไม่ว่าจะยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ที่ดิน ของตนเป็นที่พักช้าง รวมถึงผู้ที่ให้การสนับสนุนด้วยการซื้ออาหารให้ช้างก็จะต้องระวางโทษปรับไม่ เกิน 10,000 บาท

     แล้วที่เดินๆอยู่ มันคือตัวอะไร? ไม่ใช่ช้างหรืออย่างไร? ทำไมไม่เกรงกลัวกฎหมาย? หรือเจ้าของช้างไม่รู้กฎหมาย? ตำรวจน่าจะทำหน้าที่ให้ดีกว่ายืนจับรถจักรยานยนต์แล้วรีดไถประชาชนนะครับ

 

     จะว่าไปแล้วงบประมาณ 12 ล้านบาท เพื่อส่งช้าง 100 เชือกกลับบ้าน มันช่างน้อยนิดเมื่อเทียบกับงบประมาณ 60 ล้านบาท เพื่อสร้างบ้านให้ไอ้หมีเวณตะไลนี่เสียอีก สงสัยผู้ใหญ่ในบ้านเมืองคงจะคิดว่า "บรรพบุรุษของไทย ขี่แพนด้าไปรบ"